ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีคนป่วยด้วยโรคซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทั้งนี้เพราะสภาวะทางจิตของคนในยุคนี้ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่ถูกภาพ เสียง กลิ่น รส สัมผัสและธรรมารมณ์ต่างๆทั้งจากสื่อและเครื่องมือสื่อสารที่เน้นให้มีแต่ความเร็วและความสะดวกสบายในการเข้าถึงมันฉุดกระชากลากถูไปแทบจะตลอดเวลา โดยที่เจ้าตัวเองไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังหลงเผลอเพลินและเสพติดในสิ่งเหล่านั้นอยู่ และ มีน้อยคนนักที่จะมีสติระลึกรู้ตัว เท่าทัน เข้าใจและสามารถต้านทานต่อความสุข ความสนุกจากสิ่งเย้ายวนที่มาในรูปแบบของภาพ เสียง กลิ่น รส ฯลฯ ที่น่าตื่นตาตื่นใจเหล่านั้นได้ ซึ่งการปล่อยให้จิตไหลไปตามความอยากทั้งหลายง่ายๆจนเกิดความเคยชินเช่นนี้ขึ้นนั้นมันจะส่งผลเสียต่อบุคคลผู้นั้นเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะสาเหตุหลักของการเกิดโรคซึมเศร้านั้นมาจากการที่เราเผลอเพลินและหลงปล่อยให้จิตมันไหลไปตามความอยากที่จะคิด และอยากที่จะปรุงแต่งจนจิตได้เสพคุ้นในพฤติกรรมเช่นนั้นโดยพร้อมที่จะคิดและปรุงแต่งทันทีเมื่อมีโอกาส อีกทั้งถ้าหลงคิดและปรุงแต่งจิตไปแต่ในทางที่เป็นอกุศล เช่น กลัว วิตกกังวล ฯลฯ อยู่แทบจะตลอดเวลา จิตในลักษณะเช่นนั้นก็พร้อมที่จะป่วยเป็นโรคเครียดและโรคซึมเศร้าในทันทีถ้าได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างหนักขึ้นมา หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้นำเรื่องราวชีวิตจริงของผู้เขียนที่ได้เคยมีประสบการณ์ตรงจากโรคเครียดและโรคซึมเศร้านี้มาจนเกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอด มาเล่า มาแบ่งปันเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ท่านผู้อ่านเพื่อที่จะได้เห็นภาพและเข้าใจต่อเจ้าโรคร้ายที่เป็นภัยเงียบนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น ผู้เขียนหวังใจว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์และสามารถช่วยชีวิตของผู้ที่กำลังตกอยู่ในวงจรแห่งความทุกข์จากโรคเครียดและโรคซึมเศร้านี้ได้มากที่สุดตามเหตุตามปัจจัยที่ดีที่ท่านได้ตั้งใจพยายามอ่านและทำความเข้าใจกับหนังสือเล่มนี้กันนะคะ