เมียมาเฟีย
เพิ่มไปรายการที่ชอบ
เมียมาเฟีย
ราคา
ซื้อฉบับนี้ : 149.00 ฿
เกี่ยวกับ
ครูซ
"เธอเป็นของฉันตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอกล้ามองตาฉัน"
นาเนีย
"เนียไม่ได้มองตาคุณสักหน่อย เนียมองผู้ชายข้างหลังคุณต่างหาก"
คนหนึ่งเป็นถึงมาเฟียใหญ่อีกคนเป็นแค่เด็กสาวไร้เดียงสา
"ผิงงงงงงง เลิกเรียนแล้วไปกินติมกัน" น้ำเสียงเจื้อยแจ้วดังเข้ามาถึงภายในห้องเรียน ขณะที่เจ้าของเสียงนั้นก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
"อะไรเนีย อย่าวิ่งมาแบบนั้นสิเดี๋ยวก็ล้มหรอก"
ปึก ตุบ
ประโยคยังไม่จบดีคนตัวเล็กที่วิ่งเข้ามาภายในห้องเรียนมัธยมก็สะดุดเข้ากับขาเก้าอี้ล้มลงไปกองกับพื้นเสียก่อน
"เนีย! เป็นไรไหมเนี่ย" น้ำผิงรีบลุกขึ้นไปช่วยพยุงร่างบางขึ้นทันที
"เจ็บ~"
"ก็ชอบทำตัวซุ่มซ่าม บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง"
"แล้วทำไมผิงต้องขี้บ่นเหมือนแม่ด้วย" คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อน ก้มลงปัดฝุ่นตามกระโปรงและเสื้อนักเรียนออก
"ก็ต้องบ่นสิทำอะไรไม่รู้จักระวังตัวเลย โตจนจะเข้ามหาลัยแล้วนะนิสัยซุ่มซ่ามแก้ไม่หายสักที แล้วแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง" นาเนียเชิดหน้าขึ้นอย่างกระเง้ากระงอดเมื่อได้ยินคำบ่นของน้ำผิง แล้วเดินหนีไปอย่างงอนๆทำให้น้ำผิงรีบเดินตามไปเพราะกลัวว่าจะเดินเซ่อซ่าชนนู่นชนนี่ คนตัวเล็กกวาดสายตามองร้านคาเฟ่ที่เยอะแยะมากมายราวกับดอกเห็ดเนื่องจากโรงเรียนของเธออยู่ในย่านดัง
"เข้าร้านไหนดีนะ" ร่างบางพูดพร้อมกับมองเงินในมือด้วยสายตาละห้อย
"จ่ายเยอะขนาดนี้ม๊าต้องด่าอีกแน่เลย"
"เนียย ได้ร้านยังอ่ะ" น้ำผิงเอ่ยถามขึ้นพร้อมกวาดตามองหาคาเฟ่เล็กที่พอจะเข้าไปนั่งได้เพราะตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนทำให้ในร้านคับแน่นไปด้วยนักเรียนและผู้ปกครอง นาเนียส่ายหัวพลางกวาดสายตามองหาร้านที่พอจะมีที่ว่างให้เธอเข้าไปแทรก
"อ๊ะ! ร้านนั้นไง!" นาเนียพูดขึ้นอย่างดีใจพลางวิ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว
"เนีย! ระวังหน่อยสิคนเยอะแยะ! เดี๋ยวก็ไปชนเขาหรอก"
ปึก ติ๊งงง
"อ๊ะ!" คนตัวเล็กอุทานขึ้นเมื่อเผลอวิ่งชนใครบางคนเข้าอย่างจังจนตัวเซพร้อมกับเหรียญในมือที่หล่นกระจายไปทั่วพื้น
"ขอโทษค่ะ" นาเนียเอ่ยขอโทษขอโพยรีบก้มลงทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเพราะมัวแต่ก้มเก็บเหรียญ ร่างบางรีบเก็บเหรียญตามพื้นที่แม้จะไม่กี่บาทแต่ก็เสียดายมัน
"นะ เนีย" น้ำผิงที่วิ่งเข้ามาเรียกเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนตรงหน้าทั้งยังสะกิดไหล่เล็กยิกๆ
"อะไร?"
"ลุกขึ้น" คนตัวเล็กขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้สนใจน้ำผิงมากนัก เธอก็ยังคงเก็บเหรียญไปเรื่อยๆจนกระทั่งเหลือเหรียญสุดท้ายที่อยู่ใต้รองเท้าคู่หรูของผู้ชาย เธอค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมองเจ้าของรองเท้านั้นก่อนจะชะงักไปเมื่ออีกฝ่ายก็ก้มมองเธอ สายตาเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกแต่กลับน่าค้นหาอย่างน่าประหลาดทำให้เธอเผลอจ้องมองสายตาคู่นั้นนานเกินไป
"เนีย" น้ำผิงก้มลงกระซิบทำให้ร่างบางได้สติรีบลากสายตาไปมองผู้ชายด้านหลังที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเขา อย่างทำตัวไม่ถูก
"เนีย ลุกขึ้น"
"ช่วยขยับเท้าออกหน่อยได้ไหมคะ...คุณลุง" คนตัวเล็กพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าเขา แต่อีกคนก็ยังนิ่งและมองเธออยู่อย่างนั้น
"...คุณลุงคะ~"
"นายครับ ลูกค้าถึงแล้วครับ" ครูซปรายตามองลูกน้องคนสนิทพร้อมกับก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ร่างบางได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไปพร้อมกับชายชุดดำอีกสองคน ก่อนที่เธอจะรีบเก็บเหรียญใส่กระเป๋า
"น่ากลัวเนาะ เหมือนพวกมาเฟียในนิยายเลย" นาเนียพูดขึ้น ขณะที่น้ำผิงลอบถอนหายใจ
"ผิงเคยอ่านเจอในนิตยสาร เขาเป็นนักธุรกิจที่รวยมากๆเลยนะ"
"จริงเหรอ? แต่ทำไมเขาดูเหมือนพวกมาเฟียเลยล่ะ เเบบคอยมีบอดี้การ์ดมาด้วย"
"ไม่รู้สิ"
"เราอย่าไปสนใจเลยเนอะ ไปกินติมกันดีกว่า" นาเนียพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงกำลังจะลากแขนของน้ำผิงเข้าร้านไปแต่ก็ชะงักเมื่อเหลือบเห็นบางอย่างตกอยู่ เธอก้มลงหยิบมันขึ้นมามอง
"แหวนอะไรเหรอ?" น้ำผิงเอ่ยถามอย่างสงสัย
"น่าจะเป็นของคุณลุงเมื่อกี้แน่เลย" เธอพูดพร้อมกับหันไปมองด้านหลังแต่ก็ไร้วีแววของอีกคนแล้ว
"แล้วทำไงอ่ะ"
"เนียเก็บไว้ก่อนก็ได้ มันคงแพงน่าดูไว้ถ้าเจอเดี๋ยวเนียค่อยคืนเอง...แต่ตอนนี้เราไปกินติมก่อนเนอะ" พูดจบก็ลากแขนน้ำผิงเข้าร้านอีกครั้ง
"นายจะไปไหนอีกไหมครับ" ไมค์ ลูกน้องคนสนิทที่พ่วงด้วยตำแหน่งมือขวาเอ่ยถามขึ้น
"งานที่กูให้ทำไปถึงไหน?"
"ตอนนี้กำลังส่งตัวอย่างให้ลูกค้าดูครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรพรุ่งนี้ก็น่าจะส่งของได้"
"อืม" ครูซตอบรับเสียงเบาพร้อมทั้งสาวเท้าออกไปจากตรงนั้นเพราะรำคาญสายตาที่จับจ้องมาเต็มทน อะไรที่มันทำให้ชีวิตเขาวุ่นวานเขาก็ไม่ชอบทั้งหมดแต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกและน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่
@วันต่อมา
คนตัวเล็กที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียนก้มลงมองแหวนในมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นกวาดตามองหาคุณลุงคนนั้น เธอมักจะมายืนอยู่แบบนี้ทุกวันเพื่อที่จะคืนแหวนให้แต่ก็ไม่เจอเลยหลังจากวันนั้น
"หาตัวยาก เดี๋ยวก็เอาไปขายซะหรอก" คนตัวเล็กขมวดคิ้วบ่นอุบ
"จะเอาไปคืนให้ถึงที่ก็ไม่รู้อีกว่าบ้านคุณลุงอยู่ที่ไหน" ร่างบางถอนหายใจก่อนจะนึกขึ้นได้ น้ำผิงบอกว่าเคยเห็นเขาในนิตยสารน่าจะมีบทสัมภาษณ์ที่ทำงานในนั้น ว่าแล้วคนตัวเล็กก็รีบหยิบมือถือทันที ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นในสิ่งที่ต้องการ เธอรีบกดต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างดีใจ
"ผิง ทำไมยังไม่ออกมา เนียรออยู่หน้าโรงเรียนนานแล้วนะ" ร่างบางบ่นอุบ
"ผิงออกมานานแล้ว เมื่อกี้แม่โทรมาให้รีบกลับบ้านเพราะว่าพี่ผาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ผิงรีบเลยลืมบอก ขอโทษนะ"
"อ๋อ แล้วตอนนี้ถึงบ้านยัง"
"ถึงสักพักแล้วล่ะ"
"งั้นฝากสวัสดีพี่ผาด้วยนะ" นาเนียพูดขึ้น ขณะที่สายตาก็ยังมองแหวนในมือ น้ำผิงเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่เธอจะตอบกลับมา
"เนีย พี่ผาอยากคุยด้วยอ่ะ"
"ห๊ะ ดะ เดี๋ยวสิ" คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
"เนีย" ร่างบางเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มทุ้มจากปลายสาย
"..."
"ได้ยินพี่หรือเปล่า"
"ดะ ได้ยินค่ะ"
"สบายดีไหม ไม่ได้คุยกันนานเลย" หัวใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างตื่นเต้น เมื่อก่อนเธอเคยปลื้มเขามากขนาดไหนตอนนี้เธอก็ยังปลื้มเขามากขนาดนั้น เพราะภูผายังคงความอ่อนโยนไม่มีเปลี่ยน และยังสุขุมดูเป็นผู้ใหญ่อีกต่างหาก
"สะ สบายดีค่ะ" คนตัวเล็กพยายามปรับเสียงพร้อมกับยกมือขึ้นกุมอกซ้ายไม้อย่างตื่นเต้น
"แล้วตอนนี้เนียอยู่ไหน"
"อ๋อ อยู่หน้าโรงเรียนค่ะ เนียก็ยืนรอผิงตั้งนานที่ไหนได้หนีกลับบ้านไปก่อนแล้ว"
"นี่เย็นมากแล้วนะ ทำไมยังไม่รีบกลับบ้านอีกแถวนั้นยังมีคนเยอะอยู่ใช่ไหม เนียห้ามอยู่คนเดียวเด็ดขาดนะพี่เป็นห่วง"
"ค่ะ นะ เนียกำลังจะกลับแล้วค่ะ แค่นี้นะคะ" คนตัวเล็กรีบกดวางสายพร้อมกับถอนหายใจพรืด ร่างบางยกมือขึ้นมากุมพวงแก้มไว้รับรู้ได้ว่าตอนนี้หน้าเธอคงแดงมากแน่ๆ
"กรี๊ดดดด พี่ผาเป็นห่วงเนียด้วยแหละ" คนตัวเล็กกรีดร้องอย่างดีใจแต่ก็ได้ไม่นานเมื่อเหลือบเห็นแหวนในมือ
"เห้ออ คงต้องไปคนเดียวแล้วมั้ง" เธอพูดขึ้นกอดกระชับกระเป๋าในอ้อมกอดแน่นแล้วเดินออกไปทันที
ร่างบางตอนนี้อยู่หน้าบริษัทที่ถือได้ว่าเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์แนวหน้าของประเทศเลยก็ว่าได้ เธอไม่ปฏิเสธเลยว่าอยากลองเข้ามาทำงานที่นี่สักครั้งแต่มันก็คงเป็นได้แค่ฝัน เธอส่ายหัวไปมาไล่ความคิดนั้นออกก่อนจะเดินตรงไปยังชายชุดดำที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างกล้าๆกลัวๆ ทั้งๆที่เป็นแค่บริษัทนำเข้ารถแต่ทำไมบรรยากาศมันถึงน่าอึดอัดขนาดนี้กัน
"อ่ะ เอ่อ สวัสดีค่ะ" คนตัวเล็กเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่คนตรงหน้าก็ยังยืนนิ่งไร้เสียงตอบรับ เธอเลยขยับเข้าไปใกล้เขาอีกนิด
"สวัสดีค่ะ"
"..."
"เฮลโล" คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ความกลัวก่อนหน้านี้หายไปเมื่อชายตรงหน้าไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา เขานิ่งราวกับเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่ได้ตั้งระบบอะไรทั้งนั้น
"คือหนูเอาวะ..."
"มาหาใคร" น้ำเสียงนิ่งเรียบและเย็นชาที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้คนตัวเล็กรีบหันกลับไปมอง เธอยกยิ้มทันทีเนื่องจากจำได้ว่าคนตรงหน้าคือคนคนเดียวที่ไปกับคุณลุงคนนั้น
"อ๋อ หนูเอาแหวนมาให้ค่ะ วันก่อนคุณลุงคนนั้นทำตกไว้" เธอพูดพร้อมกับยื่นแหวนให้เขา แต่เขากลับไม่รับมันแถมยังล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาใครอีกคน
"มีคนอยากเจอครับนาย" นาเนียเบิกตาโพล่งอย่างตกใจด้วยไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดแบบนั้นออกไป
"ใช่ครับ" ไม่นานไมค์ก็กดวางสาย
"อยู่บนห้องทำงาน ถ้าอยากคืนก็ขึ้นไปคืนเอง" ไมค์พูดขึ้นอีกทั้งยังเปิดประตูออกเพื่อให้นาเนียได้เข้าไปถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นบริษัทใหญ่แต่ก็ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าออกได้ตามใจชอบ นาเนียรีบสาวเท้าเข้าไปด้วยความอยากรู้กวาดสายตามองรถหรูมากมายที่จอดโชว์อยู่ด้านใน
"ฮูยยย แพงๆทั้งนั้นเลย"
"ทางนี้" ไมค์พูดขึ้นเสียงเรียบในตอนที่นาเนียกำลังเดินตรงไปที่รถหรูพวกนั้น เธอส่งยิ้มแหยให้เขาทันทีจนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดยืนหน้าห้องๆหนึ่ง
"ขออนุญาตครับนาย" ร่างหนาพูดขึ้นพร้อมกับดันประตูทันทีที่ประตูถูกเปิดออกทั้งคู่ก็สอดประสานสายตากันโดยบังเอิญ นาเนียกำมือแน่นอย่างหวั่นๆ สายตาไร้ความรู้สึกแบบนั้นแต่เธอก็ยังทำใจกล้าเดินเข้าไปภายในห้อง ครูซมองผู้หญิงตรงหน้าไม่ละสายตาแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงไร้ความรู้สึกอยู่แบบเดิม
"หนู เอาแหวนมาคืนคุณลุงค่ะ" เธอยื่นมือไปตรงหน้าเขาพร้อมกับแบมันออก
"..." ชายหนุ่มมองของในมือเด็กสาวนิ่ง
"ไม่เอาเหรอคะ?" นาเนียมองด้วยสายตามึนงง"
"ไม่ใช่ของฉัน"
"คะ?"
"หึ คิดว่าแผนตื้นๆแบบนั้นฉันจะตามไม่ทันหรือไง" ครูซลากสายตามองเด็กสาวในชุดมัธยมตรงหน้าอย่างประเมิน
"หือ แผนอะไรเหรอคะ" ร่างบางถามอย่างงุนงงไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูซพยายามสื่อ ร่างหนากระตุกยิ้มมุมปากมองท่าทางไร้เดียงสาที่ไม่รู้ว่าเธอแสร้งทำหรือมันเป็นตัวตนของเธอจริงๆ
"...ถ้าไม่ใช่ของคุณลุง งั้นหนูให้ก็แล้วกันค่ะจะเอาไปทิ้งหรือเก็บไว้ก็แล้วแต่เลยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ" นาเนียวางมันลงบนโต๊ะทำงานแต่ก็ยังไม่ทันที่เธอจะเดินไปก็มีเสียงดังแทรกขึ้น
"ฉันยังพูดไม่จบ เธอห้ามหันหลังให้ฉัน"
"อะไรอีกคะ ในเมื่อแหวนวงนั้นไม่ใช่ของคุณลุง"
"เธอพยายามเข้าหาฉัน มันไม่มีความจำเป็นเลยที่เธอจะเก็บมันแล้วเอามาคืน นอกจากว่าเธอมีจุดประสงค์อย่างอื่น"
"ก็มันแพงไงคะ คุณลุงดูหนังมากเกินไปหรือเปล่า บอกหนูมานะว่าติดละครใช่ไหมถึงพูดอะไรเป็นตุเป็นตะ" ร่างบางมุ่ยหน้า หรี่ตามองเขา
"อันที่จริงหนูก็อยากเอาไปขายแต่ก็พอคิดได้บ้างว่าอาจเป็นของสำคัญของเขา เลยเลือกเก็บไว้ดีกว่า"
"เอ๋ นั่นอะไรเหรอคะ"
ครูซหันไปมองตามสายตาของเด็กสาว ขณะที่นาเนียไม่พูดเปล่า เธอพุ่งตรงไปยังของสิ่งนั้นทันทีแล้วหยิบมันขึ้นมา
พรึ่บ
"มันไม่ใช่ของเล่น" ครูซพูดอย่างไม่สบอารมณ์หลังจากกระชากปืนมาจากหญิงสาวได้
"ของจริงหรือของปลอมเหรอคะ" นาเนียถามขึ้นด้วยความอยากรู้แววตาก็ส่อประกายความสงสัยไปด้วย
"ทำไมคุณลุงต้องมีปืนด้วยเหรอคะ...หรือว่าคุณลุงเป็นตำรวจ!" ครูซมองร่างบางด้วยสายตาเอือมระอา บางครั้งความขี้สงสัยของเธอมันก็น่ารำคาญ
"เอ๋ คุณลุงเป็นตำรวจเหรอคะ!" คนตัวเล็กเบิกตาโพล่งมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตก็กวาดมองเขา
"หมดธุระแล้วก็ออกไป เกะกะ" ร่างบางมุ่ยหน้าใส่ร่างหนากอดอกพร้อมกับทำสีหน้าปั้นปึง
"ก็เมื่อกี้หนูกำลังจะออกไปแต่คุณลุงมารั้งไว้ทำไมล่ะ ทีตอนนี้ทำเป็นไล่"
"ฉันไม่ใช่ญาติเธอ อย่ามาเรียกแบบนั้น" ครูซกดเสียงต่ำเริ่มหงุดหงิดหญิงสาวตรงหน้า
"ไม่ให้หนูเรียกคุณลุงแล้วจะให้หนูเรียกอะไรคะ พี่ชายเหรอ?แต่หนูว่าคุณลุงกับหนูอายุก็ห่างกันหลายปีอยู่นะคะ ให้เรียกแบบนั้นคงไม่ดีเท่าไหร่" ครูซพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดคำพูดของเธอกำลังยั่วโทสะเขา
"ไม่ต้องเรียกอะไรทั้งนั้น หมดธุระแล้วก็ออกไป"
"ใจร้าย หนูอุตส่าห์เอาแหวนมาคืนไม่เห็นมีอะไรตอบแทนเลย" น่าแปลกที่เธอกล้าพูดแบบนั้นออกไปทั้งทีก่อนหน้านี้ยังแสดงท่าทางกลัวเขา ครูซมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบเฉยวางปืนในมือลงบนโต๊ะ
"...หรืออยากเป็นผู้หญิงของฉันล่ะ"
"ผู้หญิงของฉัน...หมายถึงให้หนูเป็นผู้หญิงของคุณลุงเหรอคะ แล้วถ้าหนูเป็นผู้หญิงของคุณลุงจริงๆหนูจะได้อะไรระ...อื้อออ" ร่างบางส่งเสียงครางอื้อในลำคอเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็กระชากตัวเธอเข้าไปบดจูบอย่างแรง คนตัวเล็กกำชายเสื้อของร่างหนาแน่นในตอนที่เขาออกแรงดันตัวเธอทำให้คนตัวเล็กต้องก้าวถอยหลังอย่างเลี่ยงไม่ได้แผ่นหลังบางชนเข้ากับโต๊ะจนแฟ้มเอกสารหล่นกระจัดกระจาย
ปึก
"อื้ออ" คนตัวเบิกตาโพล่งตีไหล่แกร่งอย่างแรงในตอนที่ร่างหนาสอดปลายลิ้นเข้ามาใพรงปากหวานขณะที่ครูซก็ไม่ได้ผละริมฝีปากออก เขาช้อนตัวนาเนียขึ้นอุ้มด้วยแขนเพียงข้างเดียวขณะที่หญิงสาวก็รีบใช้ขาเกี่ยวเอวสอบไว้อีกทีเพราะกลัวว่าจะร่วงลงไป ชายหนุ่มเลื่อนมืออีกข้างจับท้ายทอยคนตัวเล็กไว้ บังคับให้เธอเชิดหน้าขึ้นรับจูบ
ตุบ ตุบ ตุบ
เป็นเวลาเนิ่นนานร่างบางรีบทุบตรงไหล่กว้างทันทีเพื่อให้เขาถอดถอนริมฝีปากออก
"แฮ่กๆ" ร่างบางหอบหายใจเข้าปอดหนักๆเพื่อเพิ่มออกซิเจน ขณะที่ครูซก็มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาไร้ความรู้สึก นาเนียที่รับรู้ได้ว่ามีสายตาของอีกคนจ้องมองอยู่ก็รีบซบหน้าลงกับบ่าแกร่ง หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วราวกับจะทะลุออกมา
"คะ คุณลุงจุ๊บปากหนูทำไม~ คนที่จุ๊บปากกันได้จะต้องเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอคะ?" ร่างบางที่แม้จะยังเขินอายก็ยังคงตั้งคำถามใส่ ครูซหลุบตาลงมองริมฝีปากจิ้มลิ้มที่กำลังขยับไปมา
"หรือคุณลุงเห็นหนูเป็นลูกคะเพราะว่าตอนเด็กๆป๊ะป๋าก็จุ๊บปากหนูแบบนี้เหมือนกัน"
"เมื่อกี้ไม่ใช่จูบเด็กๆแบบที่เธอคิด" เขาว่าพรางวางคนตัวเล็กลงนั่งบนโต๊ะพร้อมกับเท้าแขนลงบนโต๊ะขวางเธอไว้
"แล้วเมื่อกี้มันคือจูบแบบไหนกันเหรอคะ" เธอถามพร้อมกับเอียงคอมองร่างหนาด้วยแววตาใสเเป๋ว ครูซถอนหายใจเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าควรอธิบายยังไงให้เด็กสาวเข้าใจ
"เป็นจูบที่ผู้หญิงของฉันจะได้รับ"
"งั้นตอนนี้หนูก็เป็นผู้หญิงของคุณลุงแล้วเหรอคะ?"
แกร็ก
ครูซละสายตาจากใบหน้าหวานมองคนที่เปิดประตูพรวดเข้ามาอย่างไร้มารยาท
"ครูซคะ! อี่นี่เป็นใคร!" เบลล่านางแบบชื่อดังในตอนนี้พุ่งพรวดเข้ามาเมื่อเห็นภาพตรงหน้าทำให้นาเนียขมวดคิ้ว
หมับ
"ปล่อยนะคะครูซ! อีนี่เป็นใครทำไมมันถึงมานั่งเสนอหน้าอยู่ที่นี่"
"อย่าล้ำเส้น"
"แต่เบลเป็นแฟนคุณนะคะ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง!" หญิงสาวโวยวายเสียงแหลม มองนาเนียที่ยังนั่งอยู่บนโต๊ะอย่างเคียดแค้น
"ฉันบอกเหรอว่าเธอเป็นแฟนฉัน"
กึก
"คุณพูดว่าไงนะคะ นี่คุณจะเขี่ยเบลทิ้งแบบคนพวกนั้นไม่ได้นะ เบลไม่ยอม"
"อย่าพูดเหมือนฉันเอาเธอแล้วเพราะมันน่าสะอิดสะเอียน" เบลล่ากำหมัดแน่น ใช่! ไม่ว่าเธอจะยั่วยวนยังไงเขาก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง เขาไม่แม้แต่จะปลายตามองเธอด้วยซ้ำแต่ทำไมกับเด็กคนนี้เขาถึง...
"หน้าด้าน!" เบลล่าตวาดเสียงใส่คนตัวเล็กทำให้นาเนียชักสีหน้าบึ้งตึง
"ทำไมปากเสียแบบนี้คะ แต่งตัวดูเป็นผู้ดีแต่คำพูดเหมือนแม่ค้าปากตลาดแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยนะคะ"
"อีเด็กนี่ เรียนแค่มัธยมแต่กลับวิ่งแจ้นมาหาผู้ชายถึงที่...คุณมีรสนิยมชอบผู้หญิงแบบนี้เหรอคะ..."
หมับ
"โอ๊ย! จะ เจ็บ" ครูซบีบต้นแขนของเธอแน่น
"หุบปากซะก่อนที่ฉันจะทำให้เธอไม่ได้พูดอีกตลอดชีวิต" นาเนียที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่รีบเดินเข้าไปดึงแขนชายหนุ่มออก
"คุณลุงอย่าทำแบบนี้สิ เขาเป็นผู้หญิงนะคะ" ร่างบางพูดขึ้น
"ขะ ขอโทษค่ะ ปล่อยเบลนะครูซ"
"หยุดเรียกฉันแบบนั้นสักที อย่าทำให้ฉันต้องหยุดมันเอง" เบลล่าพยักหน้าพร้อมทั้งดึงแขนของเขาออกแล้ววิ่งออกจากห้องไป
"คุณลุงคะ..."
"บอกว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น!" ร่างบางสะดุ้งเฮือกในตอนที่เขาหันมาตวาดเสียงใส่เธอ
"ขะ ขอโทษค่ะ" ครูซพ่นลมหายใจหนักๆเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานทำให้ภายในห้องเงียบไป
"เอ่ออ งั้นหนูว่าหนูกลับก่อนดีกว่า"
"เดี๋ยว" ขาเรียวที่กำลังเดินออกไปชะงัก เธอหันกลับมามองเขาอย่างมึนงง
"ค่าตอบแทน" ชายหนุ่มวางเงินลงบนโต๊ะทำงานหลายใบขณะที่ร่างบางก็ตาลุกวาว เธอยืนมองมันนิ่งอย่างประเมินดูว่ามีกี่ใบ ถ้าเธอหยิบเงินนั้นเธอจะมีเงินซื้อไอติมได้หลายเดือนเลยนะ ม๊าจะได้ไม่ด่าด้วยเพราะม๊าไม่รู้
"มาเอาไปสิ" คนตัวเล็กละสายตาจากเงินมองชายหนุ่ม
"..."
"ถ้าไม่เอาฉันจะเก็บ" เขาว่าพลางเอื้อมมือไปหยิบเงิน
"ดะ เดี๋ยวค่ะ!"
รายละเอียด
วันวางขาย :
จำนวนหน้า : 299 หน้า
ประเภทไฟล์ : PDF
ขนาดไฟล์ : 6.92 MB
ประเทศ : TH
ภาษา : Thai
จากสำนักพิมพ์ เวเนเซียร์
กำลังโหลด ...