ก่อนเข้าสู่โหมดคำถาม-ตอบ สารพันปัญหาหุ้น โดยมีคำถามจากนักลงทุนและผู้ตอบคือผู้เขียน อาจารย์สุเชษฐ์ สุขแท้ และผู้เขียนอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์ ช.โชติวงศ์ เพ็ชญไพศิษฏ์ ซึ่งในส่วนของผู้เขียนเอง (อ.สุเชษฐ์) อาจต้องเกริ่นซ้ำกันอีกรอบหนึ่งก่อนเข้าเรื่องราวที่เป็นคำถามเด็ดๆ เพื่อนักลงทุนจะได้รับทราบถึงความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและความเคลื่อนไหวของนักลงทุนซึ่งมีอยู่ 4 ประเภท คือ ป๊อปเทรด ต่างชาติ กองทุน รายย่อย เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของนักลงทุน ก่อนถึงคำถามและคำตอบต่างๆ ที่ยังค้างคาใจนักลงทุนรวมทั้งหุ้นที่แนะนำในปี 2559 นี้อีกด้วย โดยจะมีหุ้นขวัญใจของนักวิเคราะห์จำนวน 20 กว่าตัว ที่ผู้เขียนได้คัดเลือกและนำมาฝากนักลงทุน เพื่อให้ทุกคนได้ขมวดปมด้านการลงทุนให้แคบเข้า ใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ เพราะอย่างน้อยก็จะได้ศึกษาและลงลึกภาคปฏิบัติกับหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีต่างๆ และยังคงมีราคาที่น่าซื้อหาได้ โดยที่นักลงทุนกระเป๋าไม่ฉีก อย่างไรก็ตาม สำหรับบทสรุหของนักลงทุนมือใหม่ ที่อาจารย์ได้เขียนอธิบายไปในเล่มแรก คือ แมงเม่าติดปีก โดยมีตอนสำคัญอยู่ท่อนหนึ่งในบทที่ 1 โดยได้กล่าวถึงความรู้เบื้องต้นด้านการลงทุน (คนชนะตลาด) ซึ่งได้พูดถึงบทบาทของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยต้องเรียนรู้และเข้าใจตนเองให้ได้เสียก่อนว่า เป็นนักลงทุนประเภทใดไปพร้อมๆ กับการหาจุดเริ่มต้นศึกษาและเข้าใจหลักการด้านการลงทุน เพื่อปูทางให้เกิดความเชี่ยวชาญได้ในอนาคต และหาสไตล์การเล่นเป็นลักษณะที่ถูกต้องตามบุคลิกของตัวเองจนกระทั่งเข้าใจในหลักการต่างๆ ดีพอสมควรแล้ว จนกระทั่งสามารถวิเคราะห์เริ่มต้นได้ในเบื้องต้น และจะได้เริ่มต้นต่อไปได้อย่างถูกวิธี เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นนักลงทุนประเภทไหน เข้าใจถึงหุ้นพื้นฐานและเทคนิคากรวิเคราะห์หุ้นมากพอที่จะกระโดดลงมาเป็นมือใหม่ในตลาดหุ้นกับเขาได้แล้ว คือ พวกปัจจัยพื้นฐาน พวกอ่านพื้นฐานและติดตาม พวกเก็งกำไรโดยใช้กราฟ พวกที่สบาย ไม่สนใจเรื่องอื่น ขอแค่ข่าวที่จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มก็เพียงพอแล้ว สำหรับ 4 พวกนี้เป็นการปูพื้นฐานของคนกลุ่มต่างๆ ที่เข้าลงทุนในตลาดหุ้นโดยการวิเคราะห์ปัจจัยที่ใช้เป็นเครื่องมือในการพิจารณาในการปฏิบัติตัวตน เพื่อให้ได้รู้ว่าคนกลุ่มนี้ใช่เราไหม เพื่อจะได้ทำตัวให้ถูกต้องและสามารถเอาชนะตลาดที่มีความผันผวนอยู่มากได้ ดังนั้นในเล่ม 2 "ถาม-ตอบรอบรู้เรื่องหุ้น บทเรียนที่นักลงทุนหุ้นไทยต้องรู้" จึงไม่ต้องกล่าวถึงหลักการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและวิเคราะห์ทางด้านเทคนิคต่างๆ ในเบื้องต้นมากนัก เพราะเราจะก้าวไปอีกสเต็ปหนึ่งในการวิเคราะห์หุ้น เพื่อให้เห็นภาพชัดเป็นตัวๆ ตลอดจนการสังเกตหุ้นควบคุ่ไปกับการขึ้น-ลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปี พ.ศ.2559 นี้ได้อย่างแจ่มชัดขึ้น คำนำ : ถาม-ตอบ รอบรู้เรื่องหุ้น เล่มเดียวที่เฉลยปัญหาหุ้นปี 2559 ได้อย่างครอบคลุมแบบละเอียดยิบ ไขทุกปัญหาหุ้นดี-หุ้นเด่นหุ้นเล่นรอบ พร้อมตอบทุกคำถาม สารพันปัญหาคาใจนักลงทุน โดยสองกูรูหุ้นแถวหน้าของเมืองไทย อาจารย์ ช.โชติวงศ์ เพ็ชญไพศิษฎ์ และอาจารย์สุเชษฐ์ สุขแท้ สารบัญ : ถาม-ตอบ รอบรู้เรื่องหุ้น ถาม-ตอบ เกี่ยวกับปัญหาเบื้องต้นของนักลงทุนมือใหม่ โดย อาจารย์สุเชษฐ์ สุขแท้ 83 คำถาม-คำตอบ หุ้นกลุ่มต่าง ๆ ที่น่าสนใจลงทุนระยะสั้น-ระยะยาว ถาม-ตอบ ปัญหาทางเทคนิคและวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตไทยโดย อาจารย์ ช.โชติวงศ์ เพ็ชญไพศิษฏ์ ภาคผนวก กราฟภาพรวมปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน สุรปวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน ทิศทางตลาดปี 2559 ระวังการลงทุนในหุ้นที่ถูกแจ้งเตือนระยะ 3 โดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื้อหาปกหลัง : ถาม-ตอบ รอบรู้เรื่องหุ้น ถาม-ตอบรอบรู้เรื่องหุ้น บทเรียนที่นักลงทุนไทยต้องรู้เล่มนี้จะตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้และต้องรู้ ซึ่งจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นตอน ๆ ตอนแรกโดย อาจารย์ สุเชษฐ์ เริ่มจากการตอบคำถามเบื้องต้นของนักลงทุนมือใหม่ที่เคยได้อ่านหนังสือ แมงเม่าติดปาก เล่มแรก มาก่อนแล้ว ตอนที่ 2 จะลงลึกเรื่องหุ้นกลุ่มต่าง ๆ ที่น่าสนใจลงทุน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตอนที่ 3 อาจารย์ ช.โชติวงศ์ มาตอบปัญหาทางเทคนิคและการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดในอนาคต ในอย่างจุใจ และในภาคผนวก มีการสรุปวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานจากกราฟให้เข้าใจ และตบท้ายด้วยการวิเคราะห์ทิศทางแนวโน้มของตลาดปี 2559 ทั้งปีไว้ให้ด้วย เล่มนี้เพียงเล่มเดียวจะตอบโจทย์ให้กับนักลงทุนทุกระดับในการซื้อขายหุ้นได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น รีวิวโดยผู้เขียน : ถาม-ตอบ รอบรู้เรื่องหุ้น 2559 ปีแห่งการเล่นหุ้นยากมาก สำหรับปีนี้ยืนพื้นในเรื่องการเล่นหุ้นในรอบ 200 วัน คนที่ติดหุ้น 200 วัน ถ้าอยากซื้อหุ้นในราคา 50-60 บาท ให้ระมัดระวัง นักเทคนิคเวลาเห็นกราฟตรงนี้เขาวางขายแล้ว คนที่เก่งกราฟมาก ก็ดูกราฟตรงนี้เป็นสำคัญ ในแง่ของปัจจัยที่เศรษฐกิจไปไม่ค่อยได้ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีหาเงินลำบาก ไปข้างนอกมีแต่คนลำบากไม่เห็นมีคนบอกว่าดีเลย หรือบอกว่าฉันรวย ไม่เห็นมีเลย ไปตามบ้านคนซื้อของน้อย เพราะข้าวของแพงเศรษฐกิจไม่ดีจริง ๆ ส่วนหุ้นก็อย่าไปซื้อหุ้นมากต้องซื้อลดลงเพราะมีหลายปัจจัยให้ได้วิเคราะห์กัน ดังนี้ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้น ? ปัจจัยภายนอก เป็นเศรษฐกิจในยุโรป การขึ้นดอกเบี้ยของ USA และการผันผวนของราคาน้ำมัน ? ปัจจัยภายใน สภาวการณ์ขาดแคลนน้ำในการผลิตจะทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง ในขณะที่การส่งออกลดลง ดังนั้นการลงทุนในปี 2559 นี้ลำบากมากและมีความเสี่ยงอย่างมาก จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง สำหรับหนังสือเล่มนี้นำการวิเคราะห์ด้สนอุตสาหกรรมมาให้พิจารณา จะได้ลงทุนได้อย่างปบอดภัย ด้วยความปรารถนาดี อาจารย์สุเชษฐ์ สุขแท้ รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ถาม-ตอบ รอบรู้เรื่องหุ้น ในยุคที่ตลาดหุ้นผันผวน ในขณะที่ทุกคนมีจิตใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ในการลงทุนซื้อ-ขายหุ้น แต่สำหรับบางคนก็มีใจกล้าที่จะลงทุน และยังคงตั้งหน้าลุ้นหุ้นในพอร์ตของตนเองว่าจะเก็บหรือขายออกดี ต่างลังเลกับสภาวการณ์ เนื่องจากตลาดเป็นขาลง เศรษฐกิจไม่ดีเอาเลย ดังนั้น นักลงทุนทุกคนจึงต้องคำนึงถึงทุนของตนเองว่าจะได้คืนเมื่อไหร่ ถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะขายหุ้นของตนออกไป และไปทุ่มทุนให้กับการลงทุนประเภทอื่น หรืออาจเก็บเงินไว้ในรูปแบบการลงทุนอื่น ๆ ที่อาจเกิดความเสี่ยงน้อยกว่าที่ถือหุ้นอยู่ ทั้งที่ใจหนึ่งก็อยากที่จะรอคอยให้การลงทุนของตนเองสัมฤทธิ์ผลและได้กำไร แต่ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น ในยุคปัจจุบันและตลอดถึงสิ้นปี พ.ศ. 2559 นี้ไม่มีใครคาดเดาภาวะเศรษฐกิจของไทยได้ เพียงแต่ยึดเอาเศรษฐกิจของต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากเศรษฐกิจในบ้านเรานั้นยังคงอึมครึม และยังไม่มีทีท่าว่าจะกระเตื้องขึ้นมาในรูปแบบใด ดังนั้นดัฃนีหุ้นไทย จึงอยู่ในช่วงไซด์เวย์อย่างมาก และจะขึ้นลงตามดัชนีดาวน์โจนเสมอ ๆ เพราะการทำธุรกรรมทางด้านการเงินของเราหลายส่วนยังคงผูกติดอยู่กับเงินดอลล่าร์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน หรือสินค้าน้ำเข้า-ส่งออกต่าง ๆ และเมื่อหันมามองภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรายิ่งไม่รู้ว่าจะไปทางไหน เพราะถ้าหากยังคงเกิดปัญหาคาราคาซังเรื่องการเมืองการปกครอง อาทิ ต้องใช้เวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ยังคงต้องใช้เวลาไปอีกระยะหนึ่ง กว่าจะถึงจุดประกาศการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นในประเทศก็คงต้องใช้เวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นอยู่ในลักษณะไซด์เวย์ การลงทุนทั้งของกองทุนและต่างชาติยังคงลังเลกันอยู่มากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ยังคงเผ้าดูความผันผวนของตลาดก็คือรายย่อย ที่ยังคงวนเวียนลงทุนซื้อมาขายไปในระยะสั้น และรายใหม่ ๆ ที่ยังคงทยอยกันเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ทุก ๆ วัน ดังนั้น การเล่นหุ้นของนักลงทุนรายย่อยทั้งหลาย จึงควรมีตำราถือไว้ศึกษาถึงกลยุทธ์ด้านการลงทุน รวมทั้งคู่มือที่ต้องมีไว้เพื่อการตัดสินใจ เพราะอย่างน้อยก็มีที่ปรึกษาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งนั่นก็คือตัวเราเอง ด้วยความปรารถนาดี วลัย ชูธรรมธัช บรรณาธิการเล่ม