เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์ในโลกนี้ต่างมีความเชื่อที่เหมือนกันอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องภูตผี ปีศาจ วิญญาณ เป็นความเชื่อของสังคมชาวโลกมานานเท่าไหร่ไม่มีใครบอกได้ หากแต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นความเชื่อที่ผสมผสานระหว่างผีบรรพบุรุษกับความเชื่อที่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นความเชื่อแบบดั้งเดิมของมนุษย์แต่ครั้งโบราณของคนทุกชาติ ทุกเผ่าพันธุ์ ตั้งแต่ยุคก่อนจะมีศาสนาและถึงแม้ในปัจจุบัน ทั้งนี้แม้ว่าในยุค 2000 ความเชื่อเรื่องผีจะเลือนหายไปบ้างแล้วก็ตาม หากแต่ก็ยังมีผู้คนส่วนมากที่เชื่อในเรื่องภูตผี วิญญาณและสิ่งลี้ลับแม้ในประเทศที่เจริญแล้วก็ตาม สำหรับคนไทยแล้วต่างเชื่อว่าทั่วทุกบ้านทุกหลังคาเรือน ไม่มีที่แห่งใดที่จะปลอดจาก “ผี” ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความใกล้ชิดสนิทแนบแน่นกันเป็นอย่างมากมาก ไม่ว่าจะผีบ้านผีเรือน ผีปู่ย่าตายาย ผีพระภูมิเจ้าที่ อีกทั้งทุกท้องที่ต่างก็มี “ผีท้องถิ่น” เป็นของตัวเองแทบทั้งสิ้น ผี ..ตามทัศนคติของคนไทยล้วนมีความสำคัญต่อวิถีการดำเนินชีวิตของคนในชุมชน ขนบทำเนียมและประเพณี ซึ่งจะเห็นได้ว่าบางท้องถิ่นผีจะเป็นผู้วางกฎเกณฑ์ในการดำเนินชีวิตของชาวบ้าน หรือแม้แต่อาการเจ็บป่วยไข้ยังต้องให้หมอผีช่วยรักษา หรือไม่ผีจะเป็นคนบอกว่าจะต้องทำอย่างไรซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “ยาผีบอก” เป็นต้น ดังนั้นความเชื่อเรื่องภูตผีจึงฝังแน่นอยู่กับคตินิยมของคนไทยอย่างแน่นแฟ้น หรือแม้แต่ในพระราชพิธีก็ยังมีความเกี่ยวเนื่องกับภูตผีอยู่ไม่น้อย อาทิ การเซ่นสรวงพระเสื้อเมือง พระทรงเมืองและหลักเมือง รวมทั้งพิธีสอบสวนคดีความในสมัยโบราณยังใช้พิธีลุยไฟ ดำน้ำ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวเป็นความเชื่อในภูตผีวิญญาณทั้งสิ้น ในสมัยกรุงสุโขทัยที่นับว่าเป็นยุคที่ศาสนาพุทธกำลังเจริญรุ่งเรือง ก็มีการนับถือผีสางไม่แตกต่างไปจากยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในท้องถิ่นอีสานบางแห่งความเชื่อเรื่องผีก็ยังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชุมชนอยู่มาก ผี ..ในคติความเชื่อของคนไทยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ คือ ผีดี และ ผีร้าย สำหรับผีดี คือบรรพบุรุษที่คอยคุ้มครองดูแล แต่ถ้าไม่เคารพไม่บูชา ไม่เซ่นสวรวง ก็อาจให้โทษได้เช่นกัน เช่น ผีบ้านผีเรือน เป็นต้น ส่วนผีร้าย คือ ผีที่คอยรังควาญ ไม่มีประโยชน์ เช่น ผีปอบ ผีกระสือ ผีกระหัง เป็นต้น กล่าวสรุปได้ว่า ผี ..คือปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถพิสูจน์หรือตรวจวัดได้ด้วยเครื่องมือที่เชื่อถือได้ จึงยังไม่เป็นที่ยอมรับในทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นความเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องชีวิตหลังความตาย และมีอยู่ในเรื่องเล่ามานานในอดีต ผู้คนมักหวาดกลัวกับผี ไม่ว่าขณะที่เจอกับผี จะมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือไม่ก็ตาม โดยสัญชาติญาณแล้วเมื่อรู้สึกว่าตนเจอผี คนจะตัดสินใจที่จะหนี พูดคุยเสียงดังๆแม้ว่าจะคุยคนเดียว สวดมนต์ ขออภัยที่ล่วงเกิน หรือวิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อทำให้ตนรู้สึกปลอดภัยขึ้น สำหรับหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมและเรียบเรียงเกี่ยวกับเรื่องภูตผี วิญญาณและสิ่งลี้ลับเอาไว้(เฉพาะที่สำคัญและถือปฏิบัติกันมาช้านาน) ค่อนข้างสมบูรณ์ที่สุด และท้ายสุดต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน องค์กรและทุกท่าน ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล มา ณ โอกาสนี้