ความจริงนั้นมีทั้งที่เป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ความจริงที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกันจากอดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตคือความจริงที่รู้ได้โดยใช้ปัญญาญาณ เรื่องต้นกำเนิดนี้ผู้เขียนกล่าวถึงการมองความจริงที่เชื่อมโยงจากอดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตามความเข้าใจในความไม่เที่ยงที่เป็นทุกข์และเหตุแห่งทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นความจริงในอดีตหรือปัจจุบันแม้แต่อนาคตก็มีความเป็นทุกข์ที่มาจากเหตุแห่งทุกข์เช่นเดียวกัน เมื่อมีเหตุแห่งทุกข์ในอดีตได้และเหตุนั้นยังไม่ดับไปก็เป็นเหตุแห่งทุกข์ในปัจจุบันได้ แม้แต่เป็นเหตุแห่งทุกข์สำหรับอนาคตได้อีก ผู้เขียนได้นำหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องปฏิจสมุปบาทมาประยุกต์ใช้ในการทำความเข้าใจในเหตุแห่งทุกข์ที่มีในปัจจุบันและอดีต ในการมองความจริงในชีวิตว่ามีสิ่งที่มีเหตุแห่งทุกข์เป็นเช่นใดทั้งในอดีต ปัจจุบัน และสำหรับอนาคต ความจริงจะเชื่อมโยงต่อเนื่องกันได้เมื่อมีเหตุแห่งทุกข์ยังเหลืออยู่ทั้งในอดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคต ทั้งนี้ผู้เขียนได้แง่คิดจากการมองความจริงดังนี้ว่าทุกสิ่งล้วนเป็นของไม่เที่ยง การจะดับเหตุแห่งทุกข์จึงทำได้เช่นกันและเป็นโอกาสดีสำหรับปัจจุบันเท่านั้น แม้จะมองความจริงได้แล้วไม่ว่าในอดีต หรือปัจจุบัน แม้แต่อนาคต แต่หากยังเหลือเหตุแห่งทุกข์ก็เป็นการมองที่ยังไม่เกิดประโยชน์ หากมองความจริงในปัจจุบันแล้วดับเหตุแห่งทุกข์ได้จะทำให้ระงับทุกข์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ความจริงในอนาคตจึงไม่มีเหตุแห่งทุกข์อีก ไม่ว่าจะมองความจริงในอดีตหรือปัจจุบัน ควรมองเหตุแห่งทุกข์ที่ยังเหลืออยู่เพื่อความจริงในอนาคตที่จะไม่มีเหตุแห่งทุกข์อีกค่ะ