OSHO คือหนึ่งในบรมครูทางจิตวิญญาณที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุค หนังสือพิมพ์ เดอะ ซันเดย์ ไทมส์ ยกย่องเขาว่าเป็น “1 ใน 1,000 ผู้สร้างสรรค์แห่งศตวรรษที่ 20” และนักเขียนนวนิยายอย่าง ทอม ร็อบบินส์ ขนานนามเขาว่าเป็น “บุรุษสุดอันตรายหลังจากการมาของพระเยซู” เกือบ 2 ทศวรรษ หลังจากที่เขาเสียชีวิต ในปี ค.ศ. 1990 อิทธิพลในคำสอนของเขายังคงแผ่ขยาย เข้าถึงผู้แสวงหาทั่วโลก OSHO ปลุกให้บรรดาศาสดาและนักปราชญ์ผู้ทรงอิทธิพลมีชีวิตขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้า พระเยชู พระกฤษณะ กวีอย่างเล่าจื่อและรูมี นักปรัชญาอย่าง นิทเช่ พิธากอรัส และโสกราตีส รวมทั้งนักคิดผู้ยิ่งใหญ่ในยุคหลังอย่าง คาลิล ยิบราน และเกอร์จิยา เป็นต้น OSHO กล่าวถึงศาสดาและนักปราชญ์เหล่านี้ว่า… “พวกท่านต่างมีชีวิตอยู่อย่างตระหนักรู้ และปลูกฝังจิตสำนึกของมนุษยชาติ เราอย่าสักแต่มีชีวิตอยู่ แต่จงมีชีวิตอยู่อย่างตระหนักรู้” เมื่อคุณอ่านถ้อยคำของ OSHO คุณจะรู้สึกราวกับว่าเขากำลังพูดกับคุณ วิธีสนทนาในแบบ ของเขาเลื่อนไหลและน่าดึงดูด ไม่ว่าเขาจะอภิปรายเกี่ยวกับปรัชญาที่ซับซ้อนหรือคำสอนของ นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่… OSH0 มักจะนำเสนออย่างลุ่มลึกและตรงไปตรงมา ในรูปแบบที่ชวนให้ ฉุกคิดและสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านมุมมองอันลึกซึ้งและเฉียบแหลมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขา